อ.เจษฎา โพสต์แรง! แนะหลังผ่าเครื่อง GT200 ให้เอาไปขายเป็น ที่ตักขี้แมว รุ่น limited ย้ำเครื่องใช้ไม่ได้อยู่แล้ว รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กกรณีที่ทางกองทัพจะผ่าตรวจเครื่อง GT200 กว่า 700 เครื่อง ซึ่งหากทางกองทัพผ่าเครื่องจริงก็จะทำให้ไม่สามารถใช้เครื่อง GT200 ได้อีก จนทำให้เกิดคำถามว่าเอาไปทำอะไรดี?
โดย อ.เจษฎา แนะนำว่า เอาไปขายเป็นที่ตักขี้แมวแบบ limited edition น่าจะเวิร์ค
ซึ่งข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “บางท่านถามว่า กองทัพมี GT200 ตั้งเจ็ดร้อยกว่าเครื่อง ถ้าผ่าตรวจหมด ก็ใช้งานไม่ได้อีกแล้ว (จริงๆมันก็ใช้งานไม่ได้อยู่แล้ว) จะเอาไปทำอะไรดี ผมว่าเอาไปขายเป็น “ที่ตักขี้แมว” แบบ limited edition ก็น่าจะเวิร์คนะครับ ฮะๆๆๆ” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นกระแสขำขัน และเห็นด้วยกับ อ.เจษฎา เป็นจำนวนมาก
อ.อ๊อด รับอาสาสมัครจำนวน 757 คน เพื่อช่วยกัน แกะ GT200 คนละเครื่อง เผยทำให้เสร็จภายใน 5 นาที ขอแค่ไขควงคนละอัน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพเฟซบุ๊ก พูดถึงกรณีการผ่า GT200 ซึ่งทางกองทัพบก ทำสัญญาจ้าง มูลค่ารวม 7,570,000 บาท ตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้นั้น
ทาง อ.อ๊อด ได้เสนอตัวเป็นอาสาตัวช่วยแกะให้ ฟรี พร้อม รับอาสาสมัครช่วยแกะอีก 757 คน แกะคนละเครื่อง พร้อมเผยว่าจะทำสถิติด้วยการแกะให้เสร็จภายใน 5 นาที
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ช่วยแกะให้ ย้ำ ฟรี” ล่าสุดวันนี้ รศ.ดร.วีรชัย ยังได้ระบุข้อความเพิ่มว่า “รับสมัคร อาสาสมัครแกะเครื่อง GT 200 ฟรี 757 คน 1 คนต่อ 1 เครื่อง จะให้กินเนสบุ๊กมาเร็คคอร์ดส์ไว้ เราจะแกะให้เสร็จภายใน 5 นาที อุปกรณ์คือไขควงหนึ่งอัน”
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ได้เปิดเผย งบประมาณกระทรวงกลาโหมที่ไม่ปรากฏในเอกสารงบประมาณว่า เมื่อช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
พร้อมระบุว่า กองทัพบกทำสัญญาจ้าง มูลค่ารวม 7,570,000 บาท ให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 จำนวน 757 เครื่อง ตกเครื่องละ 10,000 บาท
สลากดิจิทัลขายหมด หลังจากที่ทางรัฐบาลเปิดให้ประชาชนซื้อสลากิดิจิทัลในราคา 80 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. จำนวน 5 ล้านใบ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ออกมาเปิดเผยว่า สลากดิจิทัลขายหมด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สำนักสลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดให้ประชาชนซื้อสลากดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยมีสลากทั้งหมด 5,279,500 ใบ จากผู้ค้าสลากที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10,513 ราย ที่เปิดขายในแอปเป๋าตัง และสลากดิจิทัลกว่า 5 ล้านใบนั้นถูกขายหมดแล้ว สำหรับประชาชนที่ซื้อสลากดิจิทัลและถูกรางวัล ระบบจะแจ้งเตือนไปที่แอป ภายในเวลา 18.00 น. ของวันที่ออกรางวัล ซึ่งประชาชนที่ถูกรางวัล สามารถเลือกรับรางวัลได้ 2 ช่องทางคือ เลือกรับโดยการโอนเงิน
โดยจะโอนเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยที่ผูกไว้กับแอพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งในอนาคตจะปรับเปลี่ยนให้สามารถผูกบัญชีธนาคารอื่น ๆ ได้ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อ วิธีนี้จะเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 1 และ ค่าภาษีอากรแสตมป์ร้อยละ 0.5
ส่วนวิธีที่สอง สามารถเลือกมารับเงินรางวัลที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ โดยต้องกำหนด วัน เวลา ที่ต้องการเข้ามารับเงินรางวัลเพื่อที่สำนักงานสลากฯ จะจัดเตรียมสลากแบบใบตัวจริง เพื่อส่งคืนให้กับผู้ซื้อ เพื่อเข้าสู่กระบวนการขึ้นเงินรางวัล วิธีนี้จะเสียเฉพาะค่าภาษีอากรแสตมป์ร้อยละ 0.5
‘หมอยง’ เชื่อไม่เร็วก็ช้า พบผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทย
หมอยง แสดงความเห็น เชื่อไม่เร็วก็ช้า พบผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทย ชี้โอกาสแพร่เชื้อแบบโควิดต่ำ แต่ต้องคอยระวังไม่ให้ระบาดในสัตว์เลี้ยง ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิยาลัย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กว่าด้วยเรื่องของฝีดาษลิงในไทย โดยระบุว่า ไม่เร็วก็ช้าก็ต้องพบผู้ป่วยฝีดาษลิงในไทย
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ฝีดาษวานรที่กำลังระบาดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือนมีผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วร่วม 600 คน ในประเทศต่างๆเกือบ 30 ประเทศแล้ว การแพร่กระจายครั้งนี้เป็นการแพร่กระจายนอกทวีปแอฟริกาที่มากที่สุด
ผู้ป่วยเกือบทั้งหมด เป็นเพศชาย (98%) เป็นเพศหญิง (แท้) น้อยมาก ซึ่งต่างจากการระบาดในแอฟริกาจะเป็นเพศชายประมาณ 2 ใน 3 เป็นเพศหญิงประมาณ 1 ใน 3 อายุที่ระบาดในครั้งนี้จะอยู่ระหว่าง 20 ถึง 50 ปี ซึ่งต่างจากในแอฟริกา พบทั้งเด็กและผู้ใหญ่
การระบาดในครั้งนี้มีการแพร่กระจายมาก จาก การเฉลิมฉลอง ที่มีการจัดขึ้นที่สเปน และเบลเยียม และสถานซาวน่า ในสเปน และโปรตุเกส ประเทศที่พบโรคนี้มากที่สุดคือประเทศสเปน รองลงมาคืออังกฤษและโปรตุเกส รอยโรคที่พบ จะพบอยู่ในร่มผ้า หรือบริเวณที่ลับ ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ซึ่งแตกต่างจากผู้ป่วยในแอฟริกา
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป