หนุ่มพิการทางการได้ยิน ทักแชทหาสาวขอมีอะไรด้วย วิดีโอคอลสำเร็จความใคร่ ก่อนโอนเงินค่าตอบแทนให้เหยื่อ ญาติเผย เป็นหนุ่มสายเปย์ทำไปเพราะไม่เคยมีเมีย ข่าวชวนอึ้งของ หนุ่มพิการทางการได้ยิน ทักแชตสนทนาหาหญิงสาวจำนวนมาก ถูกเปิดเผยขึ้นเอมีปู้เสียหกายรายหนึ่ง เป็นหฅิงสาว อายุ 25 ปีชาว อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ต้องเจอกับผู้ไม่หวังดี วิดีโอคอลมาโชว์ของลับ แถมช่วยเหลือตัวเองผ่านกล้อง
ผู้เสีย เล่าว่า ชายคนหนึ่งได้โพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก
“บ้านดุงอัพเดต Bandung Update” ขายของ รับบริการ จ้างงาน โดยบอกว่า พี่สาวและพี่เขยของเธอไปติดหนี้ไม่ยอมใช้ จำนวน 13,000 บาท ด้วยเหตุนี้ผู้เสียหายจึงจำเป็นต้องทักไปถามกับผู้ชายคนนี้ว่า พี่สาวเป็นหนี้เรื่องอะไร จากนั้นกชวนคุยเรื่องอื่น ก่อนที่จู่ๆ จะถามว่า ” ขอสี่ได้บ่ (ขอมีอะไรด้วยได้ไหม) “
ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุพูดคุยและสอบถามส่วนใหญ่แต่เรื่องลามก เห็นท่าไม่ดีจึงไม่คุยต่อ แต่คนร้ายก็ทักมาเรื่อยๆ ไม่หยุด เดิมทีจะไปแจ้งความ แต่มาทราบทีหลังว่าเป็นคนพิการหูหนวก จึงทำให้ชั่งใจกับสามีอยู่ว่าจะไปแจ้งดีไหม ขณะที่ หญิงสาว อายุ 30 ปี ซึ่งรู้จักกับชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า หนุ่มพิการสายเปย์ที่ชอบโทรไปก่อกวยสาวนั้นเป็นเพื่อนกับอดีตสามี ใน ต.โพนสูง เป็นคนพิการหูหนวก
หนุ่มคนนี้จะทักมาหาตนตลอด คุยเหมือนหนุ่มจีบสาว แต่ตนเองไม่เล่นด้วยเพราะมีสามีแล้ว เขาก็ยังทักมาตลอด ชอบชวนคุยเรื่องลามก บอกจะโอนเงินให้ ก็โอนมาให้จริง ครั้ง 100-200 บาท โดยสาวรายนี้ ยอมรับว่าได้มารวมๆ ประมาณ 500 บาท
ชายคนนี้พยายามวิดีโอคอลมาหาไม่หยุด ถึงเขาจะเป็นคนพิการ แต่ทำพฤติกรรมแบบนี้ก็รับไม่ได้ โดยขณะที่ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์หญิงสาวรายนี้อยู่นั้น ชายคนดังกล่าวก็วิดีโอคอลมาพร้อมกับช่วยตัวเองโชว์ทันที แต่เมื่อรู้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็รีบวางสายไปอย่างรวดเร็ว
น้าชายของหนุ่มพิการสายเปย์ ผู้ก่อเหตุ ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของหลาน โดยระบุว่า หลานสติไม่ค่อยสมประกอบ อีกทั้งยังไม่เคยมีเมียมาก่อน แต่เป็นหนุ่มสายเปย์โอนไวที่ผ่านมาถูกสาวหลอกมาเยอะ หมดเงินไปแล้วเกือบ 50,000 บาท ตนจึงต้องให้เงินไว้ใช้ครั้งละ 1,000 บาท แต่ก็ใช้หมดในวันเดียว เพราะโอนไปให้สาวๆ ไม่รู้ว่าเขาคุยกับสาวกี่คนบ้าง ส่วนเรื่องที่เขาช่วยตัวเองโชว์ และโทรไปคุกคามขอมีอะไรกับผู้หญิงไปทั่ว ตนได้ตักเตือนไปบ้างแล้ว แต่ก็ค่อนข้างลำบากเพราะต้องสื่อสารด้วยภาษามือ
ล่าสุด ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว “น.ส.มาริสา” แคดดี้ลูกสามที่ก่อเหตุขโมยผงชูรส ส่งศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ปรากฏ ศาลได้ตัดสินจำคุก แคดดี้สาวคนดังกล่าว 15 วัน พร้อมกับปรับเงินอีกจำนวน 5,000 บาท
โดยโทษจำคุกให้รอไว้ 1 ปี ส่วนของค่าปรับ น.ส.มาริสา ได้จำคุกที่ หักจากค่าปรับเป็นเงิน 1,000 บาท เหลือต้องชำระค่าปรับเป็นเงิน 4,000 บาท ซึ่งเดิมทีหากไม่มีเงินจ่ายเสียค่าปรับ นางสาวมาริสาจะต้องติดคุกแทนการเสียค่าปรับ แต่ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ที่ทราบข่าวได้ให้การช่วยเหลือโดยการออกค่าปรับให้แทนทำให้แคดดี้หญิงรายนี้ไม่ต้องนอนคุกในทื่สุด
ทั้งนี้ เจาหน้าที่ตำรวจยังเผยด้วยว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า น.ส.มาริสา ไม่ได้เป็นแม่ของเด็กทั้ง 3 คน ตามที่ได้กล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด
หนุ่ม ข่มขืนเด็กอายุ 14 อ้างคิดว่าอายุ 18 เพราะตัวใหญ่
ตำรวจเข้าจับกุม หนุ่ม 28 ปีก่อเหตุ ข่มขืนเด็กอายุ 14 เบื้องต้นให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าพาเข้าโรงแรมจริง เข้าใจผิดว่าอายุ 18 เพราะตัวใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม นายภาณุพงศ์ ส้มเช้า อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายกที่ จ131/2565 ลง 27 ก.ย. 65 ในข้อหา กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี หลังก่อเหตุข่มขืนเด็กอายุ 14 ปี
หลังจากที่ในวันที่ 25 ม.ค. พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ อายุ 14 ปีว่า นายภาณุพงศ์ ผู้ต้องหารายนี้ ได้ล่อลวง ด.ญ.เอ ไปกระทำชำเราที่โรงแรมใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ทั้งสองได้รู้จักผ่านเฟซบุ๊ก แล้วนัดไปทานข้าวดูหนังกันก่อนถูกหลอกไปข่มขืนดังกล่าว จากนั้น ชุดสืบสวน สภ.องค์รักษ์ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติออกหมายจับ กระทั่งชุดสืบสวน กก.สายตรวจ บก.ปพ.ติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว
จากการสอบปากคำผู้ต้องหาข่มขืนเด็กอายุ 14 นั้นได้ให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่ามีการพาผู้เสียหายเข้าโรงแรมจริง และ ด.ญ.เอ ยินยอม และเชื่อว่าเจ้าตัวมีอายุ 18 ปีแล้ว เพราะรูปร่างใหญ่ ตำรวจจึงนำตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สภ.องค์รักษ์ จ.นครนายก ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนทุกหน่วยกำลังไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงจุดพบชิ้นส่วนอวัยวะ เพื่อไล่เส้นทางของคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ชุดสืบสวนได้เชิญตัว นายแม็ก (นามสมมติ) เพื่อนชายคนสนิทคนปัจจุบันของผู้ตาย มาสอบปากคำที่ สน.บางกอกน้อย
เบื้องต้น นายแม็ก ให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี โดย นายแม็ก ได้คบหากับผู้ตายมาประมาณ 1 ปีครึ่ง หลังจากผู้ตายเลิกกับสามีเก่า และจากการสอบปากคำก็ไม่พบพิรุธที่น่าสงสัย อีกทั้ง นายแม็ก มีความเป็นห่วงและอาลัยต่อผู้ตาย จึงอาจเป็นไปได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
เช่นเดียวกันกับการปฏิรูปกองทัพ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เคยให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตาว่า ‘วินาทีลั่นไกสังหาร เขาเป็นอาชญากรไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว’ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปกองทัพภายในหนึ่งร้อยวัน อย่างไรก็ตามความคืบหน้านั้นยังไม่ชัดเจน จนนำไปสู่การทวงสัญญากองทัพอีกครั้ง
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป